
การขับรถในแต่ละวันไม่เหมือนกันเสมอไป เพราะสภาพอากาศมีผลอย่างมากต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นฝนตก แดดออก หมอกลง หรือแม้แต่พายุ การเตรียมตัวและเรียนรู้วิธีขับรถให้เหมาะสมกับสภาพอากาศจะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ร่วมทางได้อย่างมาก
ขับรถในสภาพอากาศฝนตก
ฝนตกเป็นสภาพอากาศที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย โดยเฉพาะในฤดูฝน ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของอุบัติเหตุบนท้องถนน เพราะถนนลื่นและทัศนวิสัยแย่ลง
แนวทางการขับรถเมื่อฝนตก
- ลดความเร็วลง และเพิ่มระยะห่างระหว่างรถให้เหมาะสม
- เปิดไฟหน้าเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการมองเห็น
- หลีกเลี่ยงการเบรกกระทันหัน เพื่อลดโอกาสลื่นไถล
- ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนให้ใช้งานได้ดี
- หลีกเลี่ยงการขับรถผ่านจุดที่น้ำท่วมขัง
ขับรถในสภาพอากาศร้อนจัด
สภาพอากาศร้อนอาจส่งผลต่อความทนทานของรถยนต์ โดยเฉพาะเครื่องยนต์และยางรถยนต์ นอกจากนี้ผู้ขับขี่เองก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่สูง
แนวทางขับรถช่วงอากาศร้อน
- ตรวจสอบระบบความเย็นของเครื่องยนต์ เช่น หม้อน้ำ น้ำยาหล่อเย็น
- ตรวจเช็กลมยาง เพราะอุณหภูมิสูงทำให้แรงดันลมเพิ่ม
- เตรียมน้ำดื่มไว้ในรถ ป้องกันภาวะขาดน้ำระหว่างเดินทาง
- หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดดจัดเป็นเวลานาน
ขับรถในสภาพหมอกหนา
ในช่วงปลายปีถึงต้นปี หมอกลงจัดในหลายพื้นที่ตอนเช้า การขับรถในหมอกต้องใช้ความระมัดระวังสูง เพราะมองเห็นได้ไม่ไกล
เทคนิคการขับรถเมื่อมีหมอก
- เปิดไฟหน้าหรือไฟตัดหมอก ไม่ควรเปิดไฟสูง เพราะจะสะท้อนกลับเข้าตา
- ลดความเร็วลง และขับชิดซ้ายให้มากขึ้น
- ฟังเสียงรอบข้างเพื่อประเมินสถานการณ์
- ไม่เปลี่ยนเลนบ่อย และไม่เร่งแซง
ขับรถในสภาพพายุหรือลมแรง
เมื่อเกิดพายุ สภาพอากาศจะรุนแรงกว่าฝนตกทั่วไป พร้อมกับลมแรงและอาจมีสิ่งของปลิวมาโดนรถ ทำให้ขับขี่ยากขึ้น
แนวทางขับรถให้ปลอดภัยเมื่อเกิดพายุ
- หลีกเลี่ยงการขับรถหากไม่จำเป็น
- ชะลอความเร็ว และจับพวงมาลัยให้มั่นคง
- ปิดหน้าต่างให้สนิท ป้องกันฝุ่นและของปลิว
- หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีต้นไม้ใหญ่ เสาไฟ หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง
เปรียบเทียบแนวทางการขับขี่ในสภาพอากาศต่าง ๆ
สภาพอากาศ | สิ่งที่ควรทำ | สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง |
---|---|---|
ฝนตก | เปิดไฟหน้า, ลดความเร็ว | เบรกกระทันหัน, ขับผ่านน้ำท่วม |
อากาศร้อน | ตรวจระบบเครื่องยนต์, มีน้ำดื่ม | จอดรถกลางแดดจัด |
หมอกหนา | เปิดไฟตัดหมอก, ขับชิดซ้าย | เปิดไฟสูง, แซงบ่อย |
พายุหรือลมแรง | จับพวงมาลัยแน่น, หยุดหากจำเป็น | ขับใกล้ต้นไม้/เสาไฟ |
การเตรียมพร้อมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่เพียงช่วยให้คุณขับขี่ได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยลดปัญหาทางเทคนิคของรถยนต์ในระหว่างการเดินทางอีกด้วย หากคุณรู้จักปรับตัวให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์ และหมั่นตรวจสอบรถยนต์ของตนเองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้มีความมั่นใจทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย ลองเริ่มพฤติกรรมเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน แล้วคุณจะรู้ว่าการเดินทางที่ปลอดภัย สบายใจ อยู่ใกล้แค่เอื้อม